มันก็ดูได้ 2 มุมมอง !

ก่อนจะไปติดตามความคิดเห็นของกูรูลูกหนังกันต่อ ตอนนี้ LS Sport เพิ่มเกมตอบคำถามแฟนบอลพันธุ์แท้รายวัน และเกมโหวตทายผล ลุ้นรับไอเทมนักเตะระดับตำนานแบบไม่ต้องเติมเงินสักบาทเลย! ก็อย่าลืมรีบไปตุนเหรียญ-เก็บเลเวลกันก่อนหมดเขตนะครับ

ไซม่อน ฮูเปอร์ กรรมการในสนามรวมถึง เดวิด คูต ผู้ตัดสินในห้อง VAR เห็นตรงกันว่า จังหวะที่ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ดึงแขน มาร์ค เกฮี จนล้มลงนั้น ‘ไม่เป็นจังหวะฟาวล์’ 

โดยพวกเขาออกมายืนยันจากเหตุการณ์นี้ว่า “ฟาน ไดจ์ค ไม่ได้ดึงใส่คู่แข่งแบบต่อเนื่อง และเป็นจังหวะที่ไม่ส่งผลต่อการเล่น”

อย่างไรก็ตาม คีธ แฮ็คเกตต์ อดีตเชิ้ตดำของ พรีเมียร์ลีก คิดต่างออกไปว่า “ทุกคนเห็นได้ว่า ฟาน ไดจ์ค ดึงคู่แข่งอย่างโจ่งแจ้ง และเป็นจังหวะที่ส่งผลต่อการเล่น”

“แน่นอนผู้ตัดสินสามารถผิดพลาดได้ แต่การที่ VAR ไม่แทรกแซง คือเรื่องน่าสมเพช และแถลงการณ์ที่พวกเขาได้ออกมาพูดนั้น ยิ่งทำให้ทุกคนสับสน เพราะภาพช้าแสดงสิ่งที่ตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง”

ตำนานนักเตะอย่าง โจ โคล ก็คิดว่าทีมเก่าควรเสียจุดโทษชัดเจน เช่นเดียวกับ กลาสเนอร์ นายใหญ่ พาเลซ ซึ่งเขากล่าวว่า “เราควรได้จุดโทษอย่างชัดเจน เกฮี ต้องการเล่นบอล และเขาก็โดน ฟาน ไดจ์ค ใช้สองมือดึงรั้งไว้”

“ยังไงก็ตาม เราต้องยอมรับคำตัดสิน ครึ่งแรกเราได้เห็นคุณภาพของ ลิเวอร์พูล แต่ครึ่งหลังเราทำได้ดีขึ้น เราสร้างโอกาสเพียงพอสำหรับตีเสมอ และนั่นช่วยสร้างความมั่นใจให้เรา”

อาร์เน่ สล็อต กุนซือฝั่ง ‘หงส์แดง’ ถูกถามถึงจังหวะปัญหาเช่นกัน และมีมุมมองที่ต่างไปจากคู่แข่ง โดยเขากล่าวว่า “จังหวะนี้บอลกำลังจะเข้ามือผู้รักษาประตูของเราอยู่แล้ว และ เกฮี คงไม่สามารถไปถึงลูกบอลได้ หากผู้ตัดสินเป่าฟาวล์ VAR คงไม่กลับคำตัดสิน แต่สำหรับผมแล้ว มันไม่ใช่จุดโทษ”

“เมื่อมองภาพรวมแล้ว ผมคิดว่าแฟน พาเลซ ไม่สามารถบ่นเกี่ยวกับผู้ตัดสิน เราต้องรอถึง 55 นาทีถึงได้ฟรีคิกครั้งแรก ตลอดทั้งเกมเราถูกจับฟาวล์ 15 ครั้ง ซึ่งพวกเขาโดนแค่ 2 ครั้ง”